27 ตุลาคม 2567 - เวลา 19.17 น. มีรายงานว่า พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมชนก ฟักไพโรจน์ รอง ผกก.สส.สภ.หนองปรือ ได้นำกำลังชุดสืบสวนไปติดตามจับกุม นายวาทิน ระมาศ อายุ 51 ปี พร้อมอาวุธปืนแบลงค์กัน ขนาด 9 มม. พร้อมเครื่องกระสุน ได้ที่บ้านเกิด จ.ศรีสะเกษ หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนไล่ยิงสาวคู่ขา และพลเมืองดี แล้วไม่หนำซ้ำใช้รถเก๋งไล่ชนจนได้รับบาดเจ็บ บนถนนเลียบทางรถไฟชัยพฤกษ์ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
สอบถาม นายวาทิน ให้การว่า คืนวันที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้ซื้อเบียร์ไปนั่งดื่มอยู่ที่ชายหาดพัทยา กระทั่งไปเจอน.ส.พิศ (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี มองว่าถูกชะตาและคุยง่ายเข้ากันดี ไม่นานได้ชวนกันไปดื่มเที่ยวกันต่อที่ชายหาดจอมเทียน ก่อนจะกลับไปส่งน้องเขาที่เดิม แต่ปรากฏว่าเมื่อเปิดลิ้นชักคอนโซลหน้ารถยนต์ พบว่ากระเป๋าได้หายไป จึงรีบขับตามหาตัวน้องแล้วเรียกขึ้นกลับมาที่รถอีกครั้ง เพื่อถามหากระเป๋า แต่เจ้าตัวได้ปฏิเสธ ด้วยความสงสัยว่าในรถมีกันแค่สองคน
จากนั้นจึงมีการขับรถตามหากระเป๋า พร้อมกับเค้นถามอยู่หลายรอบ เนื่องจากในกระเป๋ามีของสำคัญหลายอย่าง เช่นกุญแจรถสำรอง เงินสด และบอกตรงๆว่ามี แม็กกาซีนปืนอยู่ด้วย จากนั้นทางเจ้าตัวเริ่มพูดบ่ายเบี่ยง แถมทวงเงินค่าเสียเวลาที่ไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนคลายเหงา แถมจะแจ้งตำรวจจับ ก่อนตัวน้องจะขอลงข้างทางอ้างว่าปวดปัสสาวะ สักพักเห็นน้องซ้อนมอไซค์ผู้ชาย ขับเข้ามาเทียบข้างบอกให้จอดลงมาคุยกันก่อน
ทั้งนี้ ด้วยความตกใจจึงขับรถหนี แต่รถมอไซค์ก็ขับตาม จึงชักอาวุธปืนขึ้นมายิง 1-2 นัด เพื่อข่มขู่พวกเขาหยุดตาม สุดท้ายฝ่ายมอไซค์ไม่ยอมเลิกตามราวี ตัดสินใจขับรถพุ่งชนมอไซค์ล้มไถลไปกับพื้นถนน ก่อนจะกลับมาบ้านบอกพี่สาว เก็บเสื้อผ้าหนีไปยังบ้านเกิด จ.ศรีสะเกษ กลับไปนอนกอดแม่ และหลาน แต่ตอนนั้นยังไม่กล้าสารภาพบาป เพราะกลัวว่าแม่จะตกใจ กระทั่งตื่นเช้าลงมาเก็บรถพบกระเป๋าเจ้าปัญหาตกอยู่ใต้เบาะรถ
พ.ต.ท.สมชนก เผยว่า สำหรับประเด็นที่ น.ส.พิศ สาวคนเจ็บ ขึ้นซ้อนมอไซค์กับชายอื่น ขับไล่ตามผู้ต้องหานั้น ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าชายดังกล่าวเป็นพลเมืองดี ที่เข้ามาช่วยเหลือจากสาวคนเจ็บโบกเรียกข้างถนน จึงทำให้ผู้ก่อเหตุเกิดความหวาดกลัวว่าจะโดนทำร้ายเลยชักอาวุธปินขึ้นมายิง เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น พกพาวุธปืน และยิงปืนโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมาย.
ธีรวัฒน์ ทองมา ทีมข่าวชลบุรี/รายงาน