วันนี้ 11 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นายวัลลภ จินดา ปลัดอำเภอทองผาภูมิ ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า จะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายมาจากทางด้านชายแดนอำเภอสังขละบุรี ด้วยการใช้เรือมุ่งหน้าเข้าเขตพื้นที่ หมู่ 4 บ้านขนุนคี่ ต.ห้วยเขย่ง อ.ทองผาภูมิ หลังจากได้รับแจ้งจึงเดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามจับกุม ร่วมกับนายนาวา เมาน้อย กำนันตำบลห้วยเขย่ง นายนพดล นิ่มเนตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลท่าขนุน นายคณิน เจียจำรูญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ตำบลท่าขนุน สารวัตรกำนันตำบลห้วยเขย่ง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลท่าขนุน สมาชิก อส.อ.ทองผาภูมิที่ 9 พร้อมประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ และเจ้าหน้าที่ร้อย ตชด.ที่135 อ.ทองผาภูมิ
เมื่อคณะเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราไปถึงบริเวณเส้นทางป่าหลังหมู่บ้านขนุนคี่ พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ดับเครื่องยนต์จอดทิ้งในลักษณะขวางถนนเอาไว้ โดยไม่พบคนขับ อีกทั้งยังมีการนำกระดาษมาปิดบังป้ายทะเบียนทั้งด้านหน้าและด้านหลังเอาไว้ นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นอภ.ทองผาภูมิ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่แกะกระดาษออกมาดู พบเป็นหมายเลขทะเบียน บษ 7665 กาญจนบุรี และจากการตรวจสอบพบกระเป๋าสัมภาระวางอยู่ท้ายกระบะหลายใบ คาดว่าสัมภาระที่พบเป็นของกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างแน่นอน
ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังกันออกค้นหา จนพบตัวผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซ่อนตัวอยู่ในป่าข้างทางไม่ห่างจากจุดพบรถยนต์กระบะมากนัก เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวพร้อมส่งสัญญาณให้ทุกคนออกมาจากป่ามารวมตัวกันบนถนน โดยนับรวมกันได้จำนวนทั้งสิ้น 84 คน ทั้งหมดไม่มีเอกสารหรือใบอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรไทยและไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ เจ้าหน้าที่จึงสอบถามข้อมูลผ่านล่าม เบื้องต้นทราบว่า แรงงานทั้งหมดเป็นชาวรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยด้วยการมารวมตัวกันที่กิ่งอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา จากนั้นมีผู้นำพาเดินเท้าลัดเลาะไปตามชายป่าเพื่อหลบด่านตรวจ จนกระทั่งมาถึงท่าเรือหลังวัดแห่งหนึ่งของอำเภอสังขละบุรี โดยมีมีนายหน้านำเรือ จำนวน 4 ลำ มารับพวกตนไปขึ้นรถยนต์ที่จอดรออยู่ที่บริเวณท่าน้ำบ้านขนุนคี่
ขณะที่ทุกคนกำลังทยอยกันขึ้นไปบนรถ ประกฎพบเจ้าหน้าที่กำลังมุ่งหน้ามาที่พวกตน เมื่อคนขับเห็นจึงทิ้งพวกตนเอาไว้แล้วอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีไป ส่วนพวกตนได้ทิ้งสัมภาระเอาไว้ที่รถแล้วไปหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณชายป่าข้างทาง แต่ในที่สุดก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ กลุ่มแรงงานให้การอีกว่า พวกตนทั้ง 84 คน หลบหนี้เข้ามาในประเทศไทยเพื่อใช้เป็นทางผ่านเท่านั้น จุดหมายปลายทางของพวกตนคือต้องการเดินทางไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยจ่ายค่าหัวให้กับนายหน้าคนละ 75,000 บาท หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดรถยนต์กระบะของกลางเอาไว้ตรวจสอบหาตัวเจ้าของ พร้อมกับนำตัวแรงงานจำนวนดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ สอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนที่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป.
