ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นำส่วนราชการ เยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ INET- IDC 3 จังหวัดสระบุรี ตำบลบ้านป่า อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ศูนย์ข้อมูลไอทีระดับเวิลด์คลาสแห่งใหม่ล่าสุดในไทยที่ถูกออกแบบมา เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการใช้งานรองรับการใช้งานได้ทั้งรูปแบบ DC และ DR และบริการพื้นที่ทำงานสำรอง ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน (BCP) นับเป็นศูนย์ข้อมูลไอที ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีความเสถียรภาพสูง และปลอดภัยได้มาตรฐานสากล เนื่องจาก อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ตั้งอยู่ในพื้นที่ไม่เคยมีประวัติอุทกภัย และ แผ่นดินไหวในรอบ 100 ปี และตั้งอยู่บนพื้นที่สีเขียว ที่ไม่มีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก จึงเป็นศูนย์ปฏิบัติการ Data Center ที่ดีที่สุด ความเสี่ยงต่ำ INET-IDC มีขนาดพื้นที่ 400 ไร่
Network & Policy Security ศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยด้านเครือข่าย ติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ระบบเข้า - ออก อัตโนมัติ และหน่วยรักษาความปลอดภัย เสริมระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวและแจ้งเตือนอัจฉริยะ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ความต่อเนื่อง ปกป้องระบบ IT ด้วยความพร้อมของระบบพลังงานไฟฟ้าสำรอง ระบบทำความเย็น และ ระบบดับเพลิงที่ทันสมัย พร้อมกับระบบสำรองข้อมูล ป้องกันข้อมูลสูญหาย ความเชื่อมโยง INET-IDC ทั้ง 3 ศูนย์ เชื่อมโยงกันด้วยระบบ Dark Fiber ที่มีความรวดเร็วสูงและยืดหยุ่นในการใช้งาน และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมการรับมือเหตุการณ์ภัยพิบัติ ด้วยแนวทางนี้ INET จึงมีแผนขยาย INET-IDC แห่งที่ 4 ที่ภาคอีสาน เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดดิจิทัลในอนาคต และเพื่อเสริมความมั่นใจให้กับผู้ใช้งาน ว่าจะได้รับบริการที่ปลอดภัย มีเสถียรภาพสูง และพร้อมรองรับทุกสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีและคณะได้เข้าเยี่ยมชมกิจการของบริษัท เอสซีไอ อีโค่ เซอร์วิสเซส จำกัด ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการให้บริการ การกำจัดกากอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ปี 2537 โดยเป็นเจ้าแรกที่นำเทคโนโลยีจากยุโรปมาพัฒนาเพื่อนำกากอุตสาหกรรมไปเผาร่วมกับการผลิตปูนซีเมนต์ หรือที่เรียกว่า Co-Processing อีกทั้งยังเป็นบริษัทในเครือ SCG และได้รับใบอนุญาตประเภท 106 ในฐานะโรงงานปรับคุณภาพของเสียรวมโดยใช้กระบวนการความร้อนด้วยการเผาในเตาผลิตปูนซีเมนต์ จากกรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ภายใต้การบริหารงานของเครือ SCG ในกลุ่ม Cement Building Material ซึ่งเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืน ที่จะมุ่งมั่นสร้างสรรค์ และรับผิดชอบต่อสังคม ตามหลักบรรษัทภิบาล
ในปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหากับการจัดการขยะจากภาคชุมชน และจากความสำเร็จในการกำจัดกากอุตสาหกรรม SCIeco จึงมีแนวทางที่จะพัฒนาเทคโนโลยีนำมาประยุกต์ใช้กับขยะชุมชน เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาขยะล้นเมืองของประเทศไทย ซึ่งการคัดแยกขยะส่วนที่เผาไหม้ได้ออกจากขยะชุมชนแล้วนำมาผลิตเป็น RDF สามารถช่วยลดปริมาณฝังกลบ และยังเป็นการนำพลังงานที่สูญเสียไปกลับมาใช้ประโยชน์ ทั้งนี้การลดขยะชุมชนแปรรูปเป็น RDF เป็นเทคโนโลยีที่แพร่หลายในกลุ่มประเทศยุโรปโดยมีเป้าหมายเพื่อลดกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากการฝังกลบ และเป็นการช่วยลดพื้นที่อย่างยั่งยืนและเป็นไปตามแนวทางของจังหวัดสระบุรี ในเรื่อง saraburi sandbox
